1. อาการของโรคภูมิแพ้ ส่วนใหญ่มักพบผู้ป่วยในช่วงอายุ 20 ปี แต่บางรายเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุน้อย อาการแพ้จะเป็นตลอดปีหรือ
เป็นเฉพาะฤดู ซึ่งหากคุณเป็นคนที่ช่างสังเกตอาการป่วยของตนเองอยู่เสมอนั้นจะช่วยให้วินิจฉัยโรคง่ายขึ้น หากอาการภูมิแพ้
กำเริบในผู้ป่วยบางรายจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก และจาม ซึ่งหากมีอาการแบบนี้ควรหาผ้าปิดจมูกไว้เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปสู่คนอื่นได้ แต่บางรายมีอาการระคายเคืองตา และมีน้ำตาไหล ใต้ตาบวมคล้ำ
2. สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ฝุ่นควันรถยนต์ ควันไฟจากการเผาไหม้ ควันบุหรี่ กลิ่นสี กลิ่นแรงๆ ละออง
จากธูป ขนสัตว์ ไรฝุ่น ซึ่งมักจะพบมากกับผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้ตลอดปี และควรสังเกตอาการด้วยว่าตนเองมีอาการภูมิแพ้เมื่อเข้า
ใกล้กับสิ่งใด และหากผู้ป่วยที่ทราบว่าตนเองมีอาการแพ้แล้วควรใช้ผ้าปิดจมูกหรืออยู่ให้ห่างจากสิ่งนั้น เพราะจะทำให้เป็นมีอาการแพ้รุนแรงขึ้น
3. ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มักจะมีโรคร่วมแทรกซ้อน ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ โรคนอนกรน ฟันกร่อนเนื่องจากนอนกัดฟัน ริดสีดวง
จมูก ผิวหนังอักเสบ โรคหอบหืด หากไม่ควบคุมอาการอาจจะทำให้โรคหอบหืดหรือโรคผิวหนังกำเริบ
4. ผู้ที่มีพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ก็มีโอกาศเป็นโรคภูมิแพ้สูง หรือบางรายอาจจะไม่มีประวัติแพ้ในครอบครัว อาจเกิดจากปัจจัยอื่น
5. สภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ที่มีหลายปัจจัย เช่น ไรฝุ่น รา สัตว์เลี้ยง ควัน และสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานหรือโรงเรียนที่อาจจะทำให้เกิดภูมิแพ้ได้เช่นกัน ซึ่งสามารถป้องกันได้เบื้องต้นโดยการสวมหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูกขณะอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น